ปืน 5 กระบอกของสมาชิกพรรคประชาชน ปราจีนฯ มีทะเบียน ฝ่ายตรงข้ามวางงาน พรรคไม่ขับออกจากสมาชิก
การบุกตรวจค้นบ้านของนายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม สมาชิกพรรคประชาชน จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน 5 กระบอกเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ และสร้างความเข้าใจผิดในหลายแง่มุม จนทางพรรคประชาชนต้องออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า การครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวไม่ได้เป็นการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ข้อเท็จจริงจากพรรคประชาชน
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยว่า อาวุธปืนทั้ง 5 กระบอกที่ตรวจยึดได้นั้น มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยในจำนวนนี้ 3 กระบอกเป็นของนายสุเมธ อีก 2 กระบอกเป็นของพ่อและพี่ชาย โดยปืนทั้งหมดถูกเก็บรักษาในกล่อง ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หรือมีการพกพาในที่สาธารณะ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อว่าเป็น “ปืนเถื่อน” หรือมีการ “พกพาอาวุธในที่สาธารณะ”
นายกรุณพล ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม ที่ถูกบุกตรวจค้น ไม่ได้มีตำแหน่งใดในพรรค เนื่องจากการคัดเลือกผู้สมัครในพื้นที่ปราจีนบุรีจบลงแล้ว โดยตำแหน่งผู้อำนวยการประจำจังหวัดในปัจจุบันเป็นของนายสุเมธ ไสลวงษ์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้
วิเคราะห์เหตุการณ์: ฝ่ายตรงข้ามวางงาน?
กรณีนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่ต้องการดิสเครดิตพรรคประชาชน เนื่องจากมีการอ้างอิงข้อมูลจาก “ผู้แจ้งเบาะแส” ซึ่งได้รับเงินรางวัลนำจับ ทั้งนี้ ทางพรรคประชาชนระบุว่า การตรวจค้นที่เกิดขึ้นดำเนินการตามหมายศาลในช่วงเช้ามืด โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
นายกรุณพลยังกล่าวว่า บุคคลที่เป็นนักกีฬายิงปืนอย่างนายสุเมธ การมีอาวุธปืนมากกว่า 1 กระบอกถือเป็นเรื่องปกติ และการครอบครองปืนของพ่อและพี่ชายในบ้านก็ไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม
ทำไมพรรคประชาชนไม่ขับนายสุเมธออกจากพรรค?
การขับออกจากพรรคจะพิจารณาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อจริยธรรมของพรรค ซึ่งในกรณีนี้ไม่มีหลักฐานใดที่ชี้ว่านายสุเมธกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน อาวุธปืนทั้งหมดมีทะเบียนถูกต้อง และไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานในขณะตรวจค้น ดังนั้น ทางพรรคจึงไม่มีเหตุผลที่จะขับนายสุเมธออกจากการเป็นสมาชิก
สรุปเหตุการณ์
กรณีนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนในการนำเสนอข่าวและผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง นายสุเมธยังคงสถานะสมาชิกพรรคประชาชนต่อไป โดยไม่มีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในแง่ของกฎหมาย และทางพรรคได้ยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย